มีลูกศิษย์หลายๆ คนที่ลองทำ SEO ด้วยตัวเอง แล้วพบว่า ทำยังไง ก็ไม่ติดอันดับใน Google สักที วันนี้จะรวบรวมคำตอบ
5 อย่าง ที่ทำให้ SEO ของเราไม่ติดอันดับสักที
การเลือกหา Keywords ไม่ตรงจุด
หลักสำคัญของการทำ SEO อย่างแรกที่เราควรคำนึงถึงเลย คือ การเลือก keywords ที่เหมาะสมกับสินค้า บริการ หรือบทความนั้นๆ ดังนั้น ด่านแรกก่อนจะลงมือทำ อย่าลืมหา main หลักของการจัดทำหน้านั้น ด้วย Keywords ที่ต้องการ หรือถ้าเป็นบทความ ควรคิดชื่อเรื่องก่อนเลยว่า เรื่องนี้ เราจะเขียนเรื่องอะไร และมี keywords อยู่ในใจบทความนี้หรือไม่?
หลายครั้งที่เปิ้ลพบว่า บทความที่เขียน กับหัวเรื่อง ไปกันคนละทาง ซึ่งเป็นการยากมาก ที่ Robot ของ Google จะเข้าใจ ควรจำไว้เสมอว่า Robot ชอบความเรียบง่าย เข้าใจง่าย ไม่ต้องเขียนภาษาให้ต้องตีลังกาแปลความหมาย อยากทำอะไรก็บอกไม่ตรงๆ กันไปเลย เช่น รับทำ SEO ก็บอกไป หรือ ขาย ปรอทวัดไข้ ก็เขียนบอกไปเลย ไม่จำเป็นต้องอ้อมด้วยภาษาสุภาพ เช่น จำหน่ายเครื่องวัดอุณหภูมิ แบบนี้ เพราะคำสุภาพหลายๆ ครั้ง เป็นคำที่คนให้ในการค้นหาน้อยกว่า คำที่คนใช้จริง
แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ เราควรเลือก ตรวจหา keywords ที่มีคนค้นหาจริงๆ ก่อนลงมือทำเสมอ เพื่อจะได้ทำ SEO ลงไปแล้วไม่สูญเปล่า เพราะไม่มีคนค้นหา แต่อย่าลืมนะคะว่า การเลือกใช้ keywords นั้นควรจะเป็นคำที่ตรงกับเนื้อหาหรือสิ่งที่เราต้องการเรียกคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เราจริงๆ
เขียน Content ตามใจฉัน?
หลังจากเราได้ Keywords ที่จะใช้ในการเรียกคนค้นหาเพื่อมาเจอหน้าเว็บเราแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาคือ การเขียน content
หลายครั้งที่พบว่า ลูกศิษย์หลายๆ คน ได้หัวข้อมาแล้ว เขียนไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่ได้มีการคำนึงถึง Keywords ที่เราเลือกไว้ในข้อที่ 1 มาใช้เลย ทำให้ทั้งบทความ เขียนยาวมาก แต่ต้องอ่านแล้วเข้าใจเองว่า มันคือ เรื่องตามหัวข้อที่บอกไว้ เพื่อความเข้าใจที่ง่าย อย่าเขียนบทความตามใจเรามากเกินไป ควรเขียนเพื่อให้คนอ่านเข้าใจได้ง่าย และอย่าลืมสอดแทรก keywords ที่เราเลือกไว้ในข้อที่ 1 ใส่มันเข้าไปในบทความของเราด้วยนะคะ
โครงสร้างเว็บที่ลืมปรับปรุง
โครงสร้างเว็บ ก็เป็นอีกส่วนที่ คนทำ SEO บางคนมักมองข้ามไป เพราะไปกังวลแต่การหา keyowords และ เขียนบทความ แต่ไม่ได้มองว่า โครงสร้างเว็บ ก็มีผลกับปัจจัยทำให้ติด SEO ได้อย่างมากเลยทีเดียว
โครงสร้างเว็บ ประกอบด้วยอะไรบ้างล่ะ?
ก็เช่น ภาษาที่ใข้ในการพัฒนา php, html, java, wordpress ฯลฯ
หรือ meta data, schemaต่างๆ หรือการใส่ tittle, alt tag ในรูปภาพ
บางคน แค่ปรับปรุงเรื่อง meta tag ก็ติดอันดับขึ้นมาทันทีได้เลยทีเดียวนะคะ
ไร้ซึ่ง backlink ส่งเข้าเว็บ
ข้อนี้ ถือเป็น ปัญหาใหญ่ของหลายคนที่พยายามทำ SEO แล้วไม่ติดอันดับสักทีเลย นั่นคือ การสร้าง Backlink เข้ามาเว็บไซต์ของตัวเอง
แน่นอนว่า ตอนนี้ Google อาจให้ความสำคัญกับ Backlink น้อยลงมากแล้ว แต่ถ้าคู่แข่งของคุณ มี Backlink ถล่มทลาย แต่คุณไม่มีมีเลย ก็แพ้ตั้งแต่เเริ่มต้นแล้วจ้า
ดังนั้น เมื่อเราหา keywords ได้ตรงกับที่เราต้องการแล้ว เขียนบทความก็ตรงกับ keywords แล้ว ปรับโครงสร้างภายในของเว็บก็แล้ว อย่าลืมที่จะทำ Backlink ให้กับเว็บไซต์ของคุณด้วยนะ..
บางคนบอกว่า ทำ Backlink ให้เว็บไซต์แล้ว แต่มีแค่เว็บไซต์เดียวเท่านั้น ที่ส่ง backlink มา อันนี้ก็ไม่พอนะจ๊ะ.. จำนวน Backlink ต้องมีมากพอ ที่จะเอาไปสู้กับคู่แข่งได้ด้วยนะ ซึ่งการทำ Backlink มีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น link exchange (การแลกลิงค์) ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและนิยมทำกันมากเมื่อก่อน แต่ในปัจจุบัน การจัดทำ backlink มีง่ายกว่านั้น คือการใช้ Social media ต่างๆ ในการส่ง backlink กลับไปให้ยังเว็บไซต์ของเรา อันนี้ควรไปศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องการสร้าง backlink ด้วยนะจ๊ะ.. เพราะให้เขียนในนี้ มันยาวววว >*<
กังวลเรื่อง เทคนิค SEO มากเกินพอดี
หลายครั้ง และหลายคน มักจะกังวลกับ เทคนิคการทำ SEO มากจนเกินไป วิ่งตามว่า วันนี้ google เปลี่ยน Algo อะไรหรือป่าว? เราต้องทำตามที่ google บอกเลยไหม?
จริงๆ แล้ว google มีหลักที่ยึดถือมาตลอดและเหมือนเดิมเสมอ คือ ต้องการให้ “ผลการค้นหาเป็นธรรมชาติและตรงใจคนค้นหาให้มากที่สุด”
เช่น คนค้นหาส่วนใหญ่ มักจะค้นหาสินค้าหรือบริการที่อยู่ใกล้บ้าน google ก็ออก algo ที่เป็น google local
คนค้นหาส่วนใหญ่ ตอนนี้ ใช้มือถือ ในการค้นหาข้อมูลหลายๆ อย่าง ดังนั้น ผลการค้นหาต้องเปิดได้รวดเร็ว และเหมาะกับหน้าจอบนมือถือ ก็ออกเป็น google mobilegeddon เป็นต้น
ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจว่า google มีจุดประสงค์หลักคือ ให้ผลการค้นหาที่ตรงใจคนใช้มากที่สุด เราก็เข้าใจว่า อะไรที่เราควรจะปรับปรุงเปลี่ยนไป เพื่อให้ตอบโจทย์คนค้นหา นั่นจึงเป็นการทำ SEO แบบยั่งยืน และ Google ไม่เอาอันดับของคุณลงอีกเลย