9 สิ่งเกี่ยวกับ ตลาดจีน ที่คุณอาจไม่รู้หรือมักเข้าใจผิด

ตลาดจีน มีอะไรให้บางอย่างที่หลายคนมักเข้าใจผิด หรือไม่รู้เกี่ยวกับ ตลาดจีน วันนี้จะมาบอกเล่าให้ฟังกันค่าา

1. ตลาดจีนใหญ่ หากขายคนจีนได้ก็รวยแล้ว

ซึ่ง จริงมาก ที่ขาย “จีน” ได้แค่ 1% ก็รวยแล้ว แต่การจายสินค้าไปตลาดจีนนั้น ไม่ง่ายเลย เพราะด้วยประชากรที่มีอย่างมากมาย ทำให้มีความต้องการที่หลากหลาย ความคิด รายได้ วัฒนธรรม ดังนั้นการจะขายของไปตลาดจีนได้ ต้องหา target และ segment ให้แม่นและชัดเจน ไม่งั้นจะทำให้เรา เหมือนเอาเงินไปละลายในทะเลจีน กันเลยทีเดียว …ตลาดจีนใหญ่มาก ตลาดช้าง แต่ไม่ใช่หมูเลยยย

2. เว็บ Alibaba ไม่ใช่ เว็บไซต์ที่จะใช้ขายของไปที่จีนนะจ๊ะ

แต่เป็น alibaba เป็นเว็บไซต์ และ plateform ของจีนที่ไว้ขายของไปให้คนทั่วโลก ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ ที่เข้าไปซื้อขายนั้น ส่วนมากเป็นคนรัสเซีย โดย alibaba เป็น เว็บไซต์ market place ในลักษณะ B2B เป็นหลัก แต่คนจีนส่วนใหญ่ที่ขายแบบ b2b นั้น จะไปขายใน 1688.com มากกว่า ซึ่งใน 1688 นั้น ต้องเป็นคนจีนเท่านั้น จึงจะเข้าไปขายได้จ้า

3. กรณีที่เรือล่มที่ภูเก็ต ไม่น่าจะมีผลกับรายได้ของไทย เพราะคนจีนที่มาเป็นทัวร์ศูนย์เหรียญ ..

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีผลกระทบกับการมาท่องเที่ยวของไทยอย่างแน่นอน ทราบไหมคะ? ว่าใน 1 เดือนมีคนจีนมาเที่ยว เดือนละประมาณ 1 ล้านคน และมาเที่ยวเอง 30% และใน 30% เฃ้ามาใช้จ่ายในไทยประมาณ 3,700ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเหตุการณ์เรือล่ม ในครั้งนี้ สร้างความไม่มั่นใจให้กับ นทท. จีนบางส่วนเลยทีเดียว เพราะคนจีน บางส่วน มันเจอโปรฯ ตั๋วเครื่องบิน เมื่อซื้อแล้วบินวันศุกร์ กลับอาทิตกันเลย โดยพวกเขาชอบมากพักผ่อน กินหรู อยู่สบาย นวดผ่อนคลาย เป็นหลัก และก็ตอนนี้ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวบางคน ไม่อยากมาเมืองไทยเลย >*<

4. จีน-ไทย มีหลายอย่างที่คล้ายกัน

ใช่แล้ว คนจีน คนไทย มีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน เช่น คนจีน ชอบอยู่บ้านมากกว่าออกมาสังสรร ดังนั้นจะเห็นว่า คนจีนชอบที่จะซื้อกลับไปกินที่บ้าน เป็นครอบครัวมากกว่า ที่จะออกมา hangout อยู่ข้างนอก และสิ่งนี้ ที่ทำให้ สินค้าประเภท delivery จึงเติบโตมากที่จีน อีกทั้ง จีนเป็นแผ่นดินใหญ่ การเดินทางไปไหนในเมืองเล็กๆ ห่างไกล ค่อนข้างลำบาก จึงนิยมส่งของไปจะสะดวกกว่ามาก ซึ่งผิดกับคนไทยที่ นิยมออกมาเจอเพื่อนข้างนอก กินข้าว สังสรร ในลักษณะ Community mall มากกว่า

5. Ecommerce จีน ไทย มีรูปแบบการเรียกที่ต่างกัน

คนจีนเรียกการฝากขายตาม marketplace ต่างๆ ว่าเป็น ecommerce แต่ถ้าเป็นการผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น wechat, website จะเรียกว่าเป็นการขายแบบ online business ดังนั้น ถ้าไปคุยกับคนจีน ต้องระวังให้ดีนะจ๊ะ.. เพราะมันจะคนละความหมายจ้า

6. คนจีนขี้โกง โวยวายเก่ง

ด้วยความที่เมืองจีน มีปริมาณคนเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่คนคนจีนขี้โกง คนทุกประเทศ มีทั้งดีและไม่ดี ปะปนกันทั้งนั้น ไม่ใช่คนจีนทุกคนจะแย่ไปหมด ที่ดีก็มีอยู่เยอะค่ะ แต่ด้วยความที่ประชากรเยอะ มันทำให้เราเจอเรื่องไม่ดีมากกว่าดี เพราะเป็นเรื่องปกติ ที่ข่าวดี คนมักไม่ค่อยพูดต่อ แต่ข่าวไม่ดีกระจายไปเร็วมากก พอเกิดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคนจีน เลยทำให้หลายคนมองคนจีนในแง่ลบไปเสียหมด.. แต่จริงๆ แล้ว คนจีนดีๆ ทำธุรกิจด้วยความจริงใจ ก็มีอยู่มากนะคะ

7. Online Platform ที่ใช้ไม่เหมือนที่อื่น

เนื่องด้วย จีน เป็นประเทศที่ปิด และทำให้เขา พัฒนา application ไว้ใช้ภายในประเทศเอง ดังนั้น หากต้องการจะทำการตลาดออนไลน์ในจีน จงเรียนรู้ online platform ที่คนจีนใช้ไว้ ไม่ว่าจะเป็น Wechat ที่เรียกว่า เป็น superApp เพราะเป็นทุกอย่างใน app เดียว หรือ youku ที่ใช้แทน Youtube,รวมถึงโปรแกรม Chat ต่างๆ เช่น renren, qq เป็นต้น เพื่อเราจะได้ทำการ ตลาดจีน ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

8. สินค้าจีน ราคาถูก เพราะค่าแรงต่ำ เราจะเอาสินค้าไทยไปขายได้อย่างไร?

ขอบอกเลยว่า สินค้าไทยที่ขายได้ ไม่จำเป็นต้องถูกจนไปแข่งราคากับทางจีน เพราะเรามีค่าขนส่ง ค่าแรงที่แพงกว่าที่จีนอยู่แล้ว แต่ให้เน้นที่คุณภาพที่เหมาะสมกับราคา และเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ถูกต้อง ก็สามารถขายได้ เพราะคนจีนส่วนใหญ่ เชื่อถือ และนิยมชมชอบสินค้าไทย ดังนั้น มีโอกาสที่สินค้าไทย จะขายได้แน่นอน แต่ถ้าเราจะไปห่ำหั่นราคากับทางจีน.. ก็พอได้เลยว่า เราคงแพ้ตั้งแต่หน้าประตู เพราะรัฐบาลจีนเอง มีการสนับสนุนค่าขนส่งภายในประเทศ และมีมาตรการสนับสนุนอีกหลายอย่าง ที่ทำให้สินค้าของจีน มีราคาที่ถูกและคุณภาพดีอีกด้วย..

9. จีน เหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน

เนื่องจากจีนเป็นประเทศใหญ่ ทำให้มีความหลากหลาย ทั้งภาษา, การใช้ชีวิต วัฒนธรรม ดังนั้น packaging ที่ออกแบบในแต่ละที่ ก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย เช่น สินค้าที่จะขายที่แผ่นดินใหญ่ ( mainland), กับสินค้าทีาจะส่งไปขายที่ ฮ่องกง, หรือ ไต้หวัน ภาษาจีนที่ใช้ ก็เขียนไม่เหมือนกัน ที่แผ่นดินใหญ่ จะใช้จีนย่อ ส่วนไต้หวันและฮ่องกง จะใช้จีนเต็ม เป็นต้น ทั้งนี้ ยังไม่นับคำเป็นศัพท์แสลง และศัพท์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอีกมากมาย ที่เราต้องเรียนรู้กันในการจะนำของไปขายที่จีน

อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น จีนเป็นตลาดช้าง ที่ไม่หมู อย่าคิดว่า ขายจีนทำได้ง่าย ใครๆ ก็ทำได้.. ยังมีเรื่องราวน่ารู้ในการทำตลาดที่จีนอีกมากมาย ให้เราต้องค้นหาและติดตามต่อไป ^^ และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่อยากหลายๆ คนมักเข้าใจผิด เกี่ยวกับตลาดจีน..

By @goople (Uplevegoal)