Search Central Live Bangkok 2024
ในวันที่ 9 สิงหา 2556 ที่ผ่านมา ทาง Google ได้จัดสัมมนา เรื่อง Google Search & SEO ซึ่งห่างหายไปจากการจัดงานไปถึง 5 ปี โดยก่อนหน้านี้ ใช้ชื่อว่า Webmaster Conference และในก่อนหน้านั้น เมื่อปี 2018 จะใช้ชื่อว่า Google Dance Singapore และเป็นความโชคดีมาก ที่เปิ้ลได้มีโอกาส เข้าร่วมการสัมมนา ทั้ง 3 ครั้งนี้ แล้วจะมาอธิบายแทรกให้ฟังไปเรื่อยๆ ล่ะกันนะคะ ว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร ในแต่ละครั้งที่ผ่านมา โดยในปีแรกที่จัดขึ้นที่ สิงค์โปร์นั้น แทบจะเป็นครั้งแรกเลย ที่ google ยอมจัดสัมมนาให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับ SEO (เพราะเป็นกฎของ google มาตั้งแต่ต้นว่าจะไม่พยายามคุยเรื่องนี้ ให้เน้น Google Ads เป็นหลัก)
ซึ่งเอาจริงๆ ทุกครั้งที่มีเหมือนกันเลย คือ ปูพื้นฐาน ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงาน Search Engine ก่อน ทั้งเรื่อง Crawl, Index และ Ranking (ซึ่งปีนี้ 2024 ทางทีมใช้คำว่า Serving แทน เพราะจะให้สื่อให้ชัดเจนว่า มันไม่ใช่แค่การจัดอันดับบนผลการค้นหา แต่มันคือ การนำเสนอคำตอบที่ดีที่สุดให้ user แล้วนั่นเอง) และ แนะนำว่า ทุกคน ควรใช้ Search console จ้า… เพราะมันคือต้วช่วยสำคัญ ของการทำ SEO นะจ๊ะ
เริ่มงาน SCLBKK ปี 2024 กัน (#sclbkk24)
การทำงานของ Robot โดยเริ่มจาก ที่จะวิ่งไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่เรียกว่า crawler แล้วนำข้อมูลที่ได้มา แล้วจัดทำเป็น index ไว้ในฐานข้อมูลของ google จากนั้น เมือมีคนมาค้นหาข้อมูล ทาง google ก็จะนำฐานข้อมูลที่มีอยู่ใน index มาจัด Ranking แล้ว Serving เพื่อแสดงผลข้อมูลออกมาให้กับผู้ที่ต้องการค้นหา ตาม index ที่ได้จัดเก็บไว้
ซึ่งการที่จะทำให้ติดอันดับได้ Google เน้นเสมอว่า ต้องขึ้นกับคุณภาพของเนื้อหา รวมถึงอธิบายในเรื่อง การ spam ในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่ควรทำ เริ่มตั้งแต่ Coaking, Doorway page, Scraped Content, Link spam และ Hacked Content ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ที่สามารถดูได้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ goo.gle/spam-policy นะจ๊ะ
ส่วน Content ที่ดี ควรเป็น ดังนี้
- Focus on people-first content – มองที่ User เป็นหลัก ว่าเว็บของเรามีเป้าหมาย และ เนื้อหา ตอบโจทย์กับ user ได้เต็มที่ไหม
- Expertise – เขียนเนื้อหา ให้อ่านปุ๊บรู้เลยว่า เราคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จริงๆ (ตามหลัก EEAT อ่ะนะ)
- Content and quality – อันนี้ สำคัญมาก เนื้อหาและ คุณภาพคือ ที่สุด
- Presentation production – ทำเว็บให้เข้าใจง่าย ux/ui user friendly ดีที่สุด
- Avoid creating search engine first content – หลีกเหลี่ยงการทำตามเทคนิค SEO มากไปแหละ เช่น spam keyword เป็นต้น (อันนี้ เปิ้ลสอนหลายทีแล้วนะ แต่ยังมีบางคนก็ชอบแคร์ bot มากกว่าคนอ่าน >*<)
รายละเอียด ทั้งหมดไปดูได้ที่ goo.gle/helpful-content
ต่อไป เนื้อหาแน่นมาก ขอสรุปแบบรวมๆ หลักๆ เลยล่ะกันนะ
AI Overview ของ Google
เรื่องของ AI ที่ทาง Google บอกว่า คนที่ลงทะเบียนมาเกือบทั้งหมด ถามถึงแต่เรื่อง AI นี้ คือ ถ้าพูดถึงเรื่อง AI ก็มีศัพท์ 3 คำ ที่เราต้องรู้จักกันคือ AI, ML – Machine Learning, LLM – Large Language Model
ซึ่ง ในเรื่อง Machine Learning @ google ใช้สำหรับอัลกอริธิมและสัญญาณการจัดอันดับ ได้รับการ train จากเนื้อหาที่เขียนโดยคน และเพื่อคน ML จึง “เข้าใจ” และส่งเสริมเนื้อหาที่เป็นธรรมชาติได้ดีกว่าเนื้อหาแบบอื่นๆ ซึ่งทาง google บอกว่า ไม่ว่าคุณจะใช้ ai เขียน หรือตัวคุณเอง เขียนเอง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ คุณภาพ ถ้าคุณภาพเนื้อหาดี เป็นประโยชน์กับคนอ่าน ยังไงก็ติดอันดับได้ง่ายๆ อยู่แล้ว
Ai overview ทำงานโดย custom LLM (LMM แบบเฉพาะ) ที่รวมกับระบบการจัดอันดับหลักของเรา และ นำมาใช้เพื่อทำงาน search โดยเฉพาะ ซึ่งการนำ Ai overview นี้มาใช้ จะช่วยให้ยอดคลิกมากขึ้น และ traffic เกิดขึ้นในเว็บมากขึ้นด้วย โดยที่ AI overview จะถูกสร้างขึ้นมาจากข้อมูลที่มาจากผลอันดับสูงๆ จากการแสดงผล ดังนั้น จึงจำเป็นต้องไม่มี “Hallucinate” (ภาพหลอน หรือ บิดเบือน) เกิดขึ้น
ทั้งนี้รายละเอียดเกี่ยวกับ Search เกี่ยวกับ AI (Google Search’s guidance about AI-generated content): https://developers.google.com/search/blog/2023/02/google-search-and-ai-content
● AI Overviews: https://developers.google.com/search/docs/appearance/ai-overviews
เว็บ traffic หรืออันดับ ตก ทำไงดี?
สิ่งที่ควรทำเลย คือ
- อย่าตื่นตระหนก เพราะ traffic ตกเป็นเรื่องปกติ (แหมมม… ตกที ยอดขายกระจายนะคะ 55)
- วิเคราะห์อย่างรอบด้าน ใช้ Search Console และ Google Trends ดู
- ปรับปรุง SEO อย่างต่อเนื่อง (ดังนั้น ใครจ้างเปิ้ลทำติดอันดับแล้ว ควรทำ MA ต่ออายุด้วยค่า ^__^)
- สร้างเนื้อหาคุณภาพ ทำเนื้อหาให้ดี เดี๋ยว traffic และ อันดับก็กลับมาเอง
วิธีแก้ไข เว็บอันดับตก - ไปดูที่ Spam update ว่ามีการแจ้งมาใน Search console ไหม เพราะถ้า google เพิ่งตรวจเจอ อันดับเราก็จะเริ่มตกอ่ะนะ
- ดู Core update อัปเดตการตรวจคุณภาพเนื้อหา แล้วทำตามก่อนที่จะประกาศใช้จริง ซึ่งจะทำให้อันดับเราตกน้องลง (ปกติ google update ใหญ่ปีละครั้งนะ แต่ update ย่อยๆ มีบ่อยๆ 55 เราเรียกว่า Google Dance)
- ใช้ส่วนเสริม GSC-guardian ใน Chrome ช่วยตีกรอบใน Google Search Console ได้ว่าช่วงไหนของกราฟ สอดคล้องกับการอัปเดตการค้นหาอะไรได้บ้าง
- สุดท้าย ถ้าอันดับลด ลองค้นคำที่เคยได้ดี แล้วดูเว็บที่อยู่อันดับสูงกว่าเรา ดูว่าเค้าทำยังไง ก็ไปศึกษาตามเขา ( 555 ^^ )
Google VDO วิธีทำอันดับ
- จงทำ VDO ที่มีคุณภาพสูง เนื้อหาดี ตรงกับความต้องการของ User
- เปิดให้ Google เข้าไปดึงเนื้อหามาจัดอันดับได้
- ทำ VDO แยกเนื้อหาย่อยๆ เพื่อให้ค้นหาง่าย SeekToAction (อันนี้ ตาม Algo MUM ของ google ที่เคยบอกไว้)
- เรียนรู้เพิ่มเติม ได้ที่ goo.gle/video-best-practices
การใช้เว็บหลายภาษา ให้ติดผล Search
- ทางที่ดีที่สุด คือ การใช้เป็น subdomain เช่น en.example.com หรือ en-th.example.com หรือ th.example.com ไปเลย มันจะชัดเจนเวลา Bot วิ่งเข้ามาเก็บข้อมูล
- หรือ อาจจะใช้ code hreflang ในหน้าเว็บด้วย bot จะได้เข้าใจมากขึ้น
- หรือ จะใช้บอกใน sitemap ก็ได้ เลือกเอาอย่างใด อย่างนึง
- แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ไม่ใส่เลย google ก็อ่านได้อยู่ดีนะ แต่ถ้าบอก มันก็จะชัดเจนขึ้น
- ถ้าใช้ domain เป็น ccTLD จะช่วยให้ติดอันดับได้ดีขึ้นในประเทศนั้นๆ โดยใช้ code hreflang เป็นตัวรอง
- ชื่อ domain ที่เป็นภาษาไทย Google เข้าใจนะ แต่ ไม่สามารถเข้าใจ ภาษา karaoke ได้ เช่น goople na-rak แบบนี้ google ไม่เข้าใจ ต้องบอกไปเลย goople น่ารัก หรือ goople so cute เป็นต้น (^_^)
มีเรื่องของ Google Trends และ การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ภายในเว็บของคุณ dannie อีก ซึ่งเริ่มสรุปไม่ไหวล่ะ ไปอ่านต่อเองที่ goo.gle/bqefficiency นะจ๊ะ
แต่เอาจริงๆ เนื้อหาภายในงาน ค่อนข้างจะ Basic สำหรับคนทำมานานแล้ว แต่มันช่วยให้ความชัดเจนในบางเรื่องได้ดีขึ้น และในบางเรื่องก็รู้สึกขัดกับผลการทดลองที่เคยทำอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้จาก Google ปรับปรุงจากเดิมแล้ว หรือ Google ไม่ได้บอกเราทั้งหมด หรือสุดแล้วแต่จะคิดกัน ^^
ส่วน Search Central live Bangkok ep2 (SearchCentrallive ep2) จะว่าจะต่อด้วยเรื่องของ การถามตอบล้วนๆ เลยล่ะกัน ^^
